
แนวทางรักษาสิวให้หาย คือ ทำให้สิวที่มีออกจากผิวของเราไป หลากหลายวิธีในการรักษาสิว เช่น
1.ใช้ยารักษาสิว
2.ใช้เวชสำอาง
3.ฉีดสิว ทำเลเซอร์โดยคุณหมอผิวหนัง
และ อีกวิธีที่แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่ไม่แนะนำก็คือ การกดสิว
ในความเห็นของแนนเองก็ไม่แนะนำให้กดสิวเลย เพราะมีผลข้างเคียง เช่น
1.ทำร้ายสกินบาร์ริเออร์หรือเกราะป้องกันผิว
2.แพร่กระจายของเชื้อสิวไปตามรูขุมขนที่เดิมและบริเวณใกล้เคียงได้
3. รูขุมขนอักเสบ เกิดการอุดตันมากขึ้น
4.เกิดการอักเสบใต้ผิวหนัง
5.เกิดร่องรอยแผลเป็นได้
แต่มีหลายคนทักมาสอบถามและตอบบ่อยมากๆ กับวิธีดูแลผิวที่เป็นสิวหากต้องกดสิวด้วยทำยังไง?
และเชื่อว่าหลายคนที่กำลังดูคลิปนี้อยู่ มีปัญหาหลังจากกดสิว คือ รอยสิวเป็นนาน เกิดหลุมสิว และที่พบบ่อยคือ สิวเกิดซ้ำที่เดิมหรือสิวเพิ่มมากกว่าเดิมหลังจากกดสิว ก่อนไปฟังกันต่อ เพื่อเป็นกำลังใจ ช่วยกดติดตามและกดกระดิ่งด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปฟังคลิปนี้กันต่อเลย
การกดสิวเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ช่วยให้การรักษาสิวหายไวขึ้น แต่ไม่ใช่สิวทุกชนิด หรือทุกเม็ดจะกดได้
สิวอุดตันหัวเปิดจะทำได้หลายคนที่ชอบแอบกดเอง จึงมีปัญหาผิวตามมาได้ง่าย เพราะอาจแยกไม่ออกว่าสิวแบบใดกดได้หรือกดไม่ได้ รวมถึงการออกแรงกดที่ไม่ให้เกิดรอยช้ำ ดังนั้น แนนอยากย้ำว่า ถ้าอยากกดสิวจริงๆ ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญทำการกดให้ ในสถานที่ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และควรเตรียมผิวให้พร้อมก่อนกดสิว และวิธีการดูแลผิวหลังการกดสิวด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้สิวกลับมาเป็นซ้ำ
วิธีเตรียมผิวก่อนการกดสิว
ควรใช้เวชสำอางหรือยารักษาสิว ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 สัปดาห์ จึงกดสิว เพื่อให้หัวสิวขึ้นมาชั้นบนผิวให้มากที่สุด เป็นการช่วยให้หัวสิวเปิดขึ้น ช่วยทำให้การกดสิวออกได้ง่าย เพียงสะกิดเบาๆไม่ต้องออกแรง ก็จะลดโอกาสเกิดรอยสิว รอยช้ำได้ ถ้าเม็ดสิวไหนกดไม่ได้ และมีขนาดใหญ่ อาจทำการฉีดโดยแพทย์เป็นผู้พิจารณาให้ได้
หลังจากกดสิวมาแล้ว ทาครีมกันแดดหลังกดเสร็จด้วยและให้เว้นพักจากการกดผิว อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ หากต้องการกดสิวใหม่ อีกครั้ง ระหว่างนี้เราใช้เวชสำอางหรือยาต่อเนื่องตามปกติ
วิธีดูแลผิวหลังกดสิว
ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ ถ้าเราเลือกใช้ครีมรักษาไม่ตรงกับสภาพผิวที่เกิดขึ้น ทำให้สิวกลับมาเป็นใหม่ได้ง่าย และยังเสียงเกิดรอยแผลเป็นจากสิวได้อีกด้วย ขั้นตอนดูแลผิวหลังกดสิว
1.ทาลดเชื้อสิว ลดอักเสบ ลดการอุดตัน สมานแผล
ผิวหลังกดจะเกิดรอยช้ำ มีบาดแผลเกิดขึ้น มีความเสี่ยงมากที่จะเกิดสิวซ้ำได้ แนะนำทาครีมแต้มสิว ต่อเนื่อง
เลือกใช้ที่มีส่วนผสม เน้นไปทาง ทาลดเชื้อสิว ลดอักเสบ สมานแผล ยกตัวอย่างเช่น Benzoylperoxide AHA BHA Niacinamide retinoid
2.ผิวต้องชุ่มชื้นและเสริมชั้นผิวแข็งแรงเสมอ
หลายคนกลัวที่จะทามอยเจอร์ไรเซอร์ เพราะกลัวอุดตัน แต่ผิวที่มีสิวขาดไม่ได้ เพราะจะช่วยปรับให้ชั้นผิวเราสมดุล และสกินบาร์ริเออร์ของผิวแข็งแรงขึ้น
แนะนำ มอยเจอร์ไรเซอร์ เลือก 1 ในนี้ (แทรกภาพ)
3.ลดรอยสิว
ตัวลดรอยส่วนใหญ่ มักมีส่วนผสมบางตัวที่รบกวนผิว ทำให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวใหม่ได้ ดังนั้น ต้องแน่ใจว่าแผลจากการกดสิวปิดสนิทอย่างน้อย 2-3 วัน และมีรอยสิวที่สีออกโทนน้ำตาลทาตัวลดรอยได้ แต่ถ้ายังแดงๆอยู่ และไม่มั่นใจว่าทาลดรอยได้หรือยัง แนะนำให้ทา ตัวลดอักเสบ ลดเชื้อสิว
เลือกใช้ที่มีส่วนผสม เน้นไปทาง ผลัดผิวอ่อนๆและลดอักเสบ ยกตัวอย่างเช่น BHA Niacinamide สารสกัดจากชาเขียว
4.กันแดด
ใครที่กดสิวที่คลินิกเสร็จแล้ว ล้างหน้าทาครีมบำรุงใหม่ทั้งหมด และที่ขาดไม่ได้คือกันแดด
แนะนำ กันแดดลองเลือกใช้ (ในคลิป)
ทั้งหมดนี้ก็คือ วิธีดูแลผิวที่เป็นสิว หวังว่าจะเป็นประโยชน์ แต่อยากย้ำว่า การกดสิว ไม่แนะนำให้ทำโดยไม่จำเป็น ยังมีอีกหลายวิธีรักษาที่ไม่ทำร้ายผิว ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังเป็นสิว มีผิวที่ดีขึ้น